หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

หญิงไทยในอดีตกับบทบาทผู้นำครอบครัว

โพสท์โดย mata

สตรีถ่ายรูปในสตูดิโอ ภาพนี้ไม่เข้าใจว่าสตรีชาวสยามสมัยก่อนเหตุใดจึงเปลือยอก

หรือว่าเป็นสตรีมีสามีแล้ว

ลองค้นในวรรณคดีขุนช้างขุนแผน เห็นมีดังนี้

จึงไขน้ำจากบัวตะกั่วทำ.................น้ำก็พร่ำพรายพรูดูกระเด็น

เจ้าพลายชักชายสไบห่ม................ฉันอายนมไฮ้หม่อมนะอย่าเล่น

ยังไม่เคยอาบน้ำตัวเปล่าเป็น...........เขาจะเห็นแล้วอย่ากวนฉันหน่อยเลย

อนิจจาอยู่แต่เจ้ากับตัวพี่................ไม่มีใครเห็นดอกเจ้าพิมเอ๋ย

อาบทั้งผ้าไม่น่าจะเย็นเลย..............พลางก็เผยผ้าน้องออกจากทรวง 

บทบาทของสตรีไทย

         สตรีไทยมีบทบาทสำคัญมาตั้งแต่อดีต  ในทางการเมืองสตรีไทยในประวัติศาสตร์หลายคนได้มีบทบาทในการสร้างชาติไทย  เช่น  พระสุพรรณกัลยา  พระพี่นางของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช  ทรงเสียสละพระองค์เป็นองค์ประกันที่เมืองหงสาวดี  เพื่อแลกกับอิสรภาพของสมเด็จพระนเรศวรที่จะมากอบกู้เอกราชให้กับกรุงศรีอยุธยาในวันข้างหน้า
         ในสมัยรัตนโกสินทร์  สตรีไทยหลายคนได้มีบทบาทในการต่อสู้ทำสงครามเพื่อปกป้องบ้านเมือง  เช่น  คุณหญิงจัน  ภรรยาเจ้าเมืองถลาง (ภูเก็ต)  และนางมุกน้องสาว  ได้นำชาวบ้านเมืองถลางต่อสู้ต้านทานกองทัพพม่าเมื่อครั้งสงครามเก้าทัพในสมัยรัชกาลที่ 1  มีความดีความชอบจนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นท้าวเทพกษัตรีและท้าวศรีสุนทรตามลำดับ
         ในสมัยรัชกาลที่ 3  คุณหญิงโม  ภรรยาของปลัดเมืองนครราชสีมา  ได้ใช้อุบายโดยให้หญิงชาวบ้านเลี้ยงสุราอาหารแก่ทหารลาว  ทำให้กองทัพของเจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ตายใจและปล่อยปละละเลยความปลอดภัยของค่ายทัพ  เมื่อได้โอกาสก็นำอาวุธเข้าต่อสู้กับทหารฝ่ายลาวจนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมากและแตกทัพหนีไป  ทำให้ฝ่ายไทยสามารถเอาชนะได้  ต่อมาคุณหญิงโมได้รับการแต่งตั้งให้เป็นท้าวสุรนารี  นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กน้อยเท่านั้นในความเก่งของสตรีไทย

และนี่เป็นอีกหนึ่งภาพที่ทำให้เราได้เห็นว่า ผู้หญิงในอดีตออกไร่ออกนาด้วยความลำบาก

 

 “ผู้หญิงนั้นแบกฟ้าไว้ครึ่งหนึ่ง”

เป็นวาทะอันทรงอำนาจยิ่งเกี่ยวกับสตรีของเหมาเจ๋อตุง[1] หลังจากที่โลกถูกครอบงำด้วยบทบาทของผู้ชายและแนวความคิดแบบปิตาธิปไตยมาเป็นเวลายาวนาน แม้สตรีจะมีบทบาทอำนาจก็เป็นอำนาจแบบอ่อนอยู่เบื้องหลังวังใน ในศตวรรษที่ 21 ผู้หญิงได้ฟื้นกลับมามีบทบาทสำคัญต่อโลกในเบื้องหน้าอีกครั้ง

สตรีไทยเคยมีอำนาจและบทบาทสูงยิ่งในอดีตกาล หากเรามองย้อนไปยังจดหมายเหตุของชาวต่างชาติที่มองดูประเทศไทย อาจจะพอได้ภาพคร่าวๆ

พงศาวดารจีนหงเฉียวบุ๋นเ...่ยนทง ยุคราชวงศ์หมิง ตรงกับยุคกรุงศรีอยุธยาตอนต้น กล่าวถึงสตรีในเสียมหลอก๊ก หรือสยามไว้ว่า “การใช้จ่ายเงินทองนั้นสุดแต่ผู้หญิง ด้วยผู้หญิงมีสติปัญญา ชายผู้เป็นสามีต้องเชื่อฟัง”[2]

จดหมายเหตุลาลูแบร์ ในสมัยพระนารายณ์ กล่าวไว้ว่า “ฝ่ายชายนั้นต้องไปเข้าเดือนรับราชการของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 6 เดือนในปีหนึ่ง ทุกๆ ปีนั้น ก็เป็นหน้าที่ของภรรยามารดาและลูกเต้าจะเลี้ยงตัวเอง หนำซ้ำยังต้องส่งเสบียงเลี้ยงคนที่ไปเข้าเดือนอีกด้วย และเมื่อรับราชการกลับมาบ้านแล้ว ก็เป็นธรรมดามักมิใคร่รู้จักจะทำการงานอย่างไรผู้หญิงดอกเป็นตัวถากไร่ไถนา ซื้อขายสินค้าในเมือง”[3]

ส่วนสิทธิของสตรีในการเลือกแต่งงานกับผู้ชายนั้นถือว่าไม่น้อยเลย อีกทั้งจะหย่าเมื่อไรก็หย่าได้ ดังปรากฎในพระธรรมนูญกฎหมายว่า “ชายหาผิดมิได้ หญิงขอหย่า ท่านว่าเป็นหญิงหย่าชาย หย่าได้”[4]

ในยุคเดียวกันของฝั่งชาวตะวันตก ตะวันออกกลาง และตะวันออกไกลนั้น ภรรยาเป็นสิทธิ์ขาดของสามี จะยกให้ใครหรือขายใครก็ได้ มิพักพูดถึงการหย่าร้างเลย

สิทธิและบทบาทของสตรีไทยเริ่มลดลงหลังจากการชำระกฎหมายตราสามดวงในรัฃกาลที่ 1 และการปรับเปลี่ยนประเทศให้เข้าสู่แบบตะวันตกและรับจารีตนิยมแบบวิคตอเรียน-เอ็ดเวิร์ดเดียนมาหลังรัชกาลที่ 4 จนกระทั่งการอภิวัตน์ 2475 ที่คณะราษฎรได้ให้สิทธิเลือกตั้งแก่สตรีเทียบเท่าบุรุษ

เรื่องราวที่อ่าน  อาจจะไม่มีอะไรให้น่าสนใจสักเท่าไหร่  แต่เชื่อว่าผู้ที่ได้อ่านคงได้หันกลับมามองผู้หญิงที่อยู่รอบๆ ข้าง  และนึกได้บ้างว่า  หญิงไทยมีความสามารถและน่าภาคภูมิใจไม่น้อยเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับหลายๆ ประเทศ  ผมเองก็ภูมิใจในบรรพบุรุษสตรีไทยของเราอย่างที่สุดเช่นกัน   แล้วพบกันใหม่ครับ....mata

เรียบเรียงโดย  พรชัย  สังเวียนวงศ์  (mata)

อ้างอิง

[1] Mao Ze Dong.The Little Red Book. 1964
[2] ขุนเจนจีนอักษร, จดหมายเหตุเรื่องพระราชไมตรีระหว่างกรุงสยามกับกรุงจีน. ที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพมหาอำมาตย์ตรี พระยาโชฎึกราชเศรษฐี(ผ่อง โชติกพุกกณะ). โรงพิมพ์โสภณพิพัฒนากร. 2476
[3] กรมศิลปากร, จดหมายเหตุลาลูแบร์ เล่ม 2. ปรีดาลัย. ไม่ระบุปีพิมพ์
[4] พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา ฉบับ 1. กรมศิลปากร. 2549

ขอบคุณข้อมูลจาก

หญิงไทยอยู่ตรงไหนในโลก และ วิถีชีวิตแบบไทยๆ...ริมสายน้ำ

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
mata's profile


โพสท์โดย: mata
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
151 VOTES (4.2/5 จาก 36 คน)
VOTED: meltxxx, Nearvana, IronHide, paktronghie, brawut, มู๋มี่ มากินเกี๊ยวแปบเดวกลับ
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
มาแล้ว "หวยควายนำโชค" งวดวันที่ 2/5/2567รู้ยังค่าเทอม "จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" ค่าธรรมเนียมการศึกษา ปี 25675 สาเหตุ ที่คนแก่ยึดติดกับอะไรเดิม ๆวาฬนับร้อยตัวเกยตื้น ที่หาดออสเตรเลีย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
พลังมหัศจรรย์ของ "เกลือ" เปลี่ยนการซักผ้าให้สะอาดง่ายเขมรมาเหนือเมฆ เรียกประชาชนที่อยู่รอบนครวัดมาให้ทำการปรับปรุงบ้านใหม่ ให้เน้นรูปทรงบ้านให้เป็นทรงโบราณ นักท่องเที่ยวมาเที่ยวจะได้ฟินๆ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
9 เรื่องที่สุดของประเทศไทยผลไม้ต้องห้าม! อันตรายต่อสุนัขสุดเลิฟการเข้าใจและการจัดการกับความรู้สึกของผู้หญิงเอาท์เล็ทสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำที่ราคาสุดปัง
ตั้งกระทู้ใหม่